วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

🔺 เตือนภัย ธิติ หมอจุฬาฯ ในนิวยอร์ค (ส่วนขยาย) 🔺


ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับตัวละครแบบมิวแล้วกำลังเสียใจหรือออกมาไม่ได้ ลองพยายามทำความเข้าใจกับ NPD และ Narcissistic Relationship ดู แล้วจะเข้าใจว่าทำไมตัวละครนี้ถึงเป็นแบบนี้ คนส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเหยื่อจะโทษตัวเองว่าเราทำอะไรผิด และเค้าเองก็จะไม่เคยโทษตัวเองด้วย เค้าคิดว่า “ที่พวกคุณไปหลงเค้า มันก็ผิดของพวกคุณเอง ถ้าพวกคุณทำประโยชน์อะไรให้เค้า มันก็เพราะพวกคุณให้ด้วยความเสน่หาเค้าเอง ถ้าพวกคุณซึมเศร้าหรือสติแตก มันก็เพราะพวกคุณอ่อนแอเอง” (ดูตัวอย่างกรณีด้า หรือนัต) ต้องทำความเข้าใจว่าเค้าจะไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ว่าคุณจะพยายามดีกับเค้ากว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า เค้าก็จะไปหาคนใหม่อยู่ดี (ดูตัวอย่างจากกรณีนัท วุฒิ อ๋อง) แล้วสุดท้ายพวกคุณก็จะกลายเป็นคนผิดในสายตาของสังคม เพราะมิวมีแฟนอยู่แล้ว และคนอื่นที่มองเข้ามาจะไม่มีวันเข้าใจพวกคุณเลย ว่าทำไมถึงไม่ก้าวออกมา ทำไมถึงรักถึงหลงมากมายขนาดนั้น (ถ้าไม่ได้ตกอยู่ใน Narcissistic Relationship ด้วยตัวเอง จะไม่มีวันเข้าใจจริงๆนะ) และมิวมีความสามารถในการบิดเบือนความจริงและทำให้คนรอบตัวเชื่อเค้าได้ในที่สุด ดังนั้นไม่ว่ามิวจะมั่วหรือไปทำลายชีวิตคนอื่นมากแค่ไหน ยังไงก็จะมีคนเชื่อและยกยอมิวอยู่ดี

—————


โพสต์รูปคู่ออกสื่อเรียกเสียงคนชื่นชมว่าเป็นคู่รักแสนเพอร์เฟค แต่พอแฟนไม่อยู่ก็ไปหลอกเอาคนไปทั่ว เวลาคุยโทรศัพท์กับอ๋องนี่คุยด้วยเสียงราบเรียบเหมือนสอนเลคเชอร์ในคลาส ต่างจากเวลาคุยกับบรรดากิ๊กที่มิวหวังจะไปนอนด้วย หวานจนคนอื่นไม่น่าจะนึกถึงได้ ที่น่าสงสารสุดคือแม่มิวที่เวลาคุยด้วยกลับโดนเหวี่ยงโดนตวาดตลอด (อยากฟังเสียงมั้ย?) บรรดาทุกคนที่มิวคบมา อ๋องดูจะเหมาะกับมิวสุดแล้วหละ เพราะรู้ถึงความมั่วของมิวแล้วแต่ก็ยังรับมิวได้ อีกสิ่งที่ทำให้อยู่ได้นานก็เพราะมิวกับอ๋องไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเท่ากับที่มิวอยู่กับบรรดาเหยื่อคนอื่น มิวไม่ได้เผยตัวตนอีกด้าน แถมเวลาไปเที่ยวใช้จ่ายอะไรก็หารเท่ากันทุกบาททุกสตางค์ ไม่เหมือนเวลาหลอกเอาผลประโยชน์กับเหยื่อคนอื่น (เสื้อกันหนาวก็เอาของนัตมาใส่นะ)

—————

ด้าทั้งรักทั้งหลงมิวมากแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร เลยอยากดูแลมิวให้ดีที่สุด ทุกครั้งที่นอนโรงแรมกลางโลกด้วยกันจะอัพเกรดไปใช้ห้องที่ราคาสูงสุด สั่งอาหารมากินและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซื้อของขวัญและของใช้ต่างๆให้ ทั้งน้ำหอม บอร์ดเกมส์ กางเกงใน ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ด้าพยายามหัดเล่นบอร์ดเกมส์ที่มิวชอบ เพื่อคอยเป็นเพื่อนเล่นเวลามิวเหงาๆตอนเข้าเวรดึก นวดให้ทุกครั้งที่มิวเครียด พยายามที่จะทำให้มิวมีความสุขที่สุด แต่หลังจากนั้นไม่นานมิวก็เริ่มเผยตัวตน จากที่เคยเป็นคนที่น่ารักแสนดีก็เปลี่ยนมาเป็น dominant ส่วนด้าก็กลายเป็น submissive ไปโดยปริยาย แทบทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน มิวเหวี่ยงด้าบ่อยมาก จนด้าต้องขอร้องขอให้ดุน้อยลงหน่อยให้ใจดีกับด้าขึ้นซักนิด ยังไงต้าก็ยอมมิวอยู่แล้วถึงจะโดนเหวี่ยงโดนดุแค่ไหน สำหรับคนที่เป็น borderline ทนรองรับมาอารมณ์มามากขนาดนี้ถือว่าสุดแล้วจริงๆ ด้าคิดแค่ว่าถ้ายังมีกันอยู่ก็จะยอมทนมิวทุกอย่าง แต่ขอใช้คำพูดนัท “Mew is always Mew” มิวจะไม่มีวันเปลี่ยน สุดท้ายมิวก็จะพยายามไปมีคนใหม่และ discard ต้าอยู่ดี

—————

มีคำอธิบายทางจิตวิทยาว่าทำไม narcissist ถึงได้ทำตัวแย่กับคนที่เค้าสนิทมากๆอย่างคนในครอบครัวหรือคนที่เค้าคบนัก เป็นเพราะ narcissist เค้าสร้างภาพเป็นคนที่แสนดีหลอกผู้คนรอบตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคงใช้พลังงานพอสมควร พออยู่กับคนที่เค้าสนิทมากๆและรู้สึกปลอดภัยเหมือนเป็น safe zone เลยรู้สึกว่าอยากเป็นตัวของตัวเองได้ เวลามิวอยู่กับคนในครอบครัวอย่างแม่ (ที่ซึ่งยังไงก็เป็นแม่ลูกตัดกันไม่ขาด) หรือคนที่คบด้วยอย่างด้าหรือนัต (ที่จะโดนมิวทำร้ายจิตใจแค่ไหนก็ยังยอมมิวอยู่ทุกอย่าง) มิวถึงระบายอารมณ์ได้เต็มที่ คนในครอบครัวหรือคนที่คบอยู่กับ narcissist ก็เลยเป็นเหมือนกระสอบทรายหรือพรมเช็ดเท้าดีๆนี่เอง รองรับทุกอย่างในสนามอารมณ์นั้น

—————

มิวมีวิธีการ hoover และ manipulate ที่หลายหลายมาก ถ้าเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเงียบหายไป หรือเปลี่ยนไปจะทักมาหา หรือถามว่าเป็นอะไร ไม่ใช่เพราะเป็นห่วง แต่ต้องการให้กลับมาอยู่ในการควบคุมของตัวเองอีก (narcissistic supply) มิวเรียนรู้จากด้าว่าจุดอ่อนของเหยื่อที่หลงรักในตัวเองคืออะไร เวลาที่มิวหงุดหงิดอารมณ์เสีย ด้าจะมานั่งนวดหัวนวดตัวให้มิวตอนนอน ส่วนนึงเพราะอยากให้มิวผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้น อีกส่วนนึงก็เพราะอยากเติมเต็มความรู้สึกที่ได้ดูแลคนที่ตัวเองรัก เวลาที่เห็นว่านัตเริ่มเงียบห่างหรือแข็งข้อ มิวจะขอให้นัตนวดให้ มันได้เติมเต็มความรู้สึกของนัตที่ได้ดูแลมิวที่ตัวเองรัก ทำให้นัตวกกลับมาหลงอยู่ในลูปเดิมอีก และถึงแม้ว่าจะเลิกกันไป มิวจะยังวนเวียน stalk และ hoover คนที่เคยคบมาตลอด ไม่ว่าจะบล๊อคหรือหายไปไหน มิวจะตามหาจนเจอ แบบที่มิวยังคงตาม stalk social media ต้าอยู่ตลอด หรือยังกลับไปคุยกับนัท (ตอนมีเรื่องกับต้า มิวก็ยังไปปรึกษากับนัทเรื่องนี้)

—————


ชื่อเสียงการันตีจากแพทย์รุ่นพี่ที่ลำปาง ดังไปทั่วทั้งกรุงเทพ ลำปาง บัฟฟาโล่ โรเชสเตอร์ นิวยอร์ค บอสตัน โตรอนโต้ ถ้าจะมั่วขนาดนี้…

—————


รูปคู่ปริ้นท์มาติดไว้ที่หัวเตียง เอาไว้โชว์อ๋องว่ารักและคิดถึงกันเหมือนเดิมนะ แต่บนเตียงเดียวกันนั้น ผ่านผู้ชายมากี่คนแล้วอ๋องไม่รู้

🔺 เตือนภัย ธิติ หมอจุฬาฯ ในนิวยอร์ค 🔺

 1 - ธิติ อัศวภาณุมาศ มีชื่อเล่นว่า มิว

มิวเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล  เรียนต่อด้านโลหิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฉพาะทางปลูกถ่ายไขกระดูก แล้วมาเป็นอาจารย์แพทย์ในมหาลัยที่ตัวเองเรียนจบเฉพาะทางมา ทำงานในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และทำงานโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในไทยไปด้วย มิวเป็นคนที่มีบุคลิกภาพผิดปกติแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder - NPD) จะมีลักษณะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ต้องการการยกยอชื่นชม และขาดความเห็นใจผู้อื่น สามารถใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนเองได้โดยไม่สนใจความรู้สึกคนเหล่านั้น เป็นชนิดย่อย Machiavellianism คือสร้างภาพหลอกคนเก่งและแนบเนียน คนรอบตัวที่ไม่ได้สนิทมากจะไม่มีวันรู้ว่าตัวตนจริงๆเป็นยังไง นอกจากนี้มิวยังมีอาการ Compulsive Sexual Behavior Disorder หรืออาการเสพติดทางเพศอีกด้วย สมัยที่ยังเป็นหมออินเทิร์นที่ลำปาง  มิวเคยคบกับรุ่นพี่ที่เคยเรียนหมอจากต่างสถาบันชื่อนัท นัทเป็นคนที่รักมิวมาก ถึงแม้คนรอบตัวนัทจะเคยเตือนเรื่องมิวหลายๆครั้ง เวลาถูกจับได้ว่าไปนอนกับคนอื่นมิวจะร้องไห้จนนัทใจอ่อนให้อภัย นัทยังพยายามเข้าใจ ให้ความรักความอบอุ่นที่ดีที่สุดที่คนรักคนนึงจะมอบให้ได้ หวังว่ามิวจะเปลี่ยน แต่เนื่องจากมิวเป็นคนเสพติดทางเพศ มิวก็ยังนอกใจนัทไปนอนกับคนอื่นอยู่ตลอด จนถึงจุดที่นัททนไม่ไหวและเดินออกมา

—————

2 - อ๋อง แฟนคนปัจจุบัน

ถึงมิวจะไม่ได้ไปต่อกับนัทหรือวุฒิ แต่ในที่สุดมิวก็มาเจอคนที่จะอยู่กับมิวไปได้ตลอด คนๆนั้นคือรุ่นพี่ที่จบมหาลัยสามย่านที่เดียวกับที่มิวจบเฉพาะทางมา ชื่อ อ๋อง อ๋องเป็นคนที่ที่บ้านมีฐานะ มีธุรกิจกงสีที่บ้าน เรียนจบตรีวิศวะ โทบริหารธุรกิจมหาลัยเดียวกับที่มิวจบเฉพาะทางมา และจบโทการจัดการอีกใบที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่าน Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความเป็น Narcissist มิวจะชอบคบคนที่มีโปรไฟล์โดดเด่นลักษณะนี้ เพื่อสถานะทางสังคม (ไม่ได้ชอบด้วยความรัก) แต่เพราะมีกิจกรรมความชอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น วิ่งมาราธอน และเดินเขา อีกทั้งอ๋องเองก็ดูจะรับในข้อเสียของมิวได้ เรื่องการมีคู่นอนอื่น อ๋องเลือกจะยอมคบกับมิวแบบกึ่งๆ open relationship (มีคู่หลักของตัวเองแต่สามารถไปนอนกับคนอื่นได้ ถ้าตกลงกัน) ทำให้ทั้งสองคนคบกันได้ยาวนานกว่าทุกคนที่มิวเคยคบ บางครั้งทั้งคู่จะโพสต์รูปลง social media คู่กันแกล้งทำเป็นคู่รักแสนหวานเพื่อให้คนมาแสดงความชื่นชม ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเชื่อแบบนั้น แต่คนอย่างมิวก็ไม่เคยหยุด มิวยังคุยกับคนใน social media ต่างๆ ทั้งที่หาแค่คู่นอน หรือหาความสัมพันธ์แบบลับๆ (นอกใจ) จนกระทั่งมิวได้มาเจอด้า

—————

3 - ด้า คู่นอนใหม่

ด้าเรียนจบโทการจัดการจากมหาวิทยาลัยศาลายาที่เดียวกับที่แรกที่มิวจบมา ต่อโทบริหารธุรกิจอีกใบที่มหาลัยทางตอนใต้ของประเทศสหราชอาณาจักร ทำงานในบริษัทระดับโลก เป็นอีกคนที่มีลักษณะโปรไฟล์ถูกใจมิว แต่ด้าเป็นคนที่มีบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder - BPD) คือ จะมีความรู้สึกที่รุนแรงมากกว่าคนทั่วไป เช่น รักก็รักมากจนหลง เศร้าก็เศร้ามากจนดิ่ง อารมณ์เลยแปรปรวนรุนแรง และกลัวการถูกทอดทิ้งที่สุด นอกจากนี้ด้าเองยังมีโรคซึมเศร้า (Major Depressive Disorder - MDD)

️ คนเป็น Borderline มักถูกดึงดูดโดยคนเป็น Narcissist เพราะ Borderline มักจะขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เลยชอบคนที่ดูมีเสน่ห์มีความมั่นใจมาเติมเต็ม ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Narcissist เพราะสร้างภาพเก่ง รู้ว่าคนที่กำลังคุยด้วยชอบคนแบบไหนและสามารถแสดงให้ตัวเองมีลักษณะแบบนั้น ในขณะเดียวกัน Narcissist ก็ได้ประโยชน์จากการได้รับความรักความชื่นชมมากๆจาก Borderline คนสองประเภทนี้เลยดึงดูดซึ่งกันและกัน แต่ก็จะอยู่กันได้ไม่นาน เพราะ Narcissist เป็นคนที่ขาดความเห็นอกเห็นใจขาดความเข้าใจความรู้สึกคนอื่น เห็นคนอื่นเป็นแค่เครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ตนเอง ในขณะที่ Borderline เป็นคนต้องการการเอาใจใส่ และกลัวการถูกทอดทิ้งที่สุด เลยเป็นบุคลิกภาพที่เข้ากันไม่ได้อย่างรุนแรง แล้วคนทั้งสองประเภทก็มีลักษณะอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นทั้งคู่ ซึ่งจะไม่ได้แสดงออกต่อหน้าคนอื่น ด้วยภาพลักษณ์ที่ต้องสร้างไว้

️ ยกตัวอย่างการสร้างภาพของคนเป็น Narcissist - Machiavellian มิวเคยบอกด้าว่าตนเองไม่ชอบดื่มเหล้า แล้วไปเขียนโพสต์ลง Facebook ของตัวเองว่า ตนเองเกลียดคนดื่มเหล้ามาก เพราะสมัยที่เป็นหมออินเทิร์นที่ลำปาง เคยเจอคนไข้ที่เมาเหล้าหนักมากแล้วแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับแม่ที่มาเฝ้าไข้ มิวโกรธมาก ถึงแม้ด้วยจรรยาบรรณแพทย์จะไม่ควรไปตัดสินคนไข้ แต่มิวก็อดไม่ได้ที่ต้องไปสั่งสอน และนี่เป็นเหตุการณ์ที่ฝังใจทำให้ตนไม่ชอบดื่มเหล้า แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวมิวก็ดื่มเหล้าเมาจนบางครั้งกลับมานอนแก้ผ้า และตลอดเวลาที่มิวอยู่กับแม่หรือคุยโทรศัพท์กับแม่ มิวก็ก้าวร้าวกับแม่ ทั้งขึ้นเสียงทั้งตะคอก คนแบบไหนกันที่สร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดีได้โดยที่บอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองเกลียดคนที่เป็นแบบตัวเอง? สรุปแล้ว ส่วนใหญ่ที่มิวโพสต์ลง Facebook จะขึ้นอยู่กับว่าในช่วงเวลานั้นกำลังจีบใครและกำลังจะสร้างภาพตัวเองเป็นแบบไหนเพื่อให้เหยื่อคนนั้นประทับใจ (ตอนมิวเข้าหานัต (ตัวละครในบทถัดไป) มิวก็ทำตัวเป็นคน “ง่ายๆ” เพื่อให้นัตประทับใจ)

—————

4 - เริ่มความสัมพันธ์กับด้า

มิวทักแชต Facebook มาหาด้า และสานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆทุกอย่างดูดีไปหมด เพราะเป็นลักษณะ Love Bombing (Stage แรกใน Narcissistic Abuse Cycle คือ Idealization บอกรัก ชื่นชม แกล้งทำตัวเป็นคนแบบที่เหยื่อชอบ ทำทุกอย่างเพื่อให้เหยื่อหลงและตายใจ) ไม่นานก็นัดเจอกันในวันเกิดมิว ทั้งสองตกลงเจอกันที่โรงแรมด้วยความที่บ้านของทั้งคู่มีคนในครอบครัวอาศัยอยู่ ด้าเป็นคนจองโรงแรมไว้ เจอกันครั้งแรกแทบยังไม่ได้คุยกันก็ขึ้นเตียงเลย (ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ต่างจากความสัมพันธ์แบบปกติทั่วไป) หลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็ยังคุยกัน นัดเจอกันเป็นระยะ มากินข้าวด้วยกันบ้าง มานอนด้วยกันบ้าง จะนัดเจอกันที่โรงแรมเชนใหญ่ชื่อดังของไทยที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมือง(กลางโลก) ด้วยความที่ด้าหลงมิวมาก อยากดูแลมิวให้ดีที่สุด ทุกครั้งที่นัดเจอกันด้าจะเป็นคนออกค่าโรงแรมและค่าอาหารทั้งหมด วันเกิดมิวด้าก็ซื้อของขวัญและคอยซื้อของใช้ส่วนตัวให้มิวตลอด แต่ก็มีครั้งนึงที่ด้าเจอมิวที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง(เมืองหลวงของไทย)ซึ่งมิวไปเข้าเวรรอบดึก ด้าไปอยู่กับมิวในห้องพักในโรงพยาบาลซึ่งห้องก็ไม่มีที่ล๊อกประตู แต่ทั้งคู่ก็ร่วมรักกันอยู่ดี (ใครจะคิดว่าห้องในโรงพยาบาล บนเตียง บนโซฟา ในห้องน้ำ จะเคยผ่านอะไรมาแล้วบ้าง?) ทุกวันนี้มิวยังบอกทุกคนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น แค่ไปนั่งเล่นหมากเก็บกัน?

—————

5 - ความสัมพันธ์ระยะหลังเริ่มระหองระแหง

พอมิวได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วก็เริ่มคุยกับคนใหม่ เริ่มเฉยชาและลดความสัมพันธ์กับด้าลง ด้าเองก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของมิว ทุกครั้งที่ด้าพยายามจะก้าวออกมาก็จะถูก manipulate ให้กลับไป แต่พออยู่ด้วยกันก็ถูก gaslight ให้รู้สึกหมดคุณค่าในตัวเอง (Stage ที่สองใน Narcissistic Abuse Cycle คือ Devaluation นั่นคือ emotional manipulation และ gaslighting ทำให้เหยื่อสับสนและลดคุณค่าในตัวเอง ก่อนจะลดความสัมพันธ์ลงและ Discard แต่เมื่อเหยื่อพยายามจะออกจากความสัมพันธ์ก็จะเข้าสู่ Stage สุดท้าย คือ Hoovering หลอกล่อให้กลับไปด้วย Love bomb อีก แล้วก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ) ด้ามีความหวาดระแวงจากการที่กลัวถูกทิ้งก็มีอารมณ์แปรปรวน ทั้งเป็นซึมเศร้าอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสับสนว่าอนาคตความสัมพันธ์ตัวเองจะเป็นยังไงต่อ พอโดนเล่นกับความรู้สึกมากๆอาการซึมเศร้าก็ทรุดหนัก จนกระทั่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงจุดแตกหัก ตอนนั้นด้าต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล ไม่สามารถทำงานต่อไปได้จนต้องลาออกจากงานมารักษาตัว มิวเองก็มีแต่ความระแวงว่าคนอื่นจะรู้เรื่องมั้ยที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ด้าเป็นแบบนี้

—————

6 - จุดแตกหัก

ในช่วงหลังนี้ด้าถูกมิวทำร้ายจิตใจหลายครั้งจนหัวใจแตกสลาย จนความคิดความรู้สึกเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน ป่วยหนักจนไม่เหลือแรงจะใช้ชีวิตอยู่ต่อ เรื่องดำเนินไปจนถึงจุดที่เรียกว่าฟางเส้นสุดท้าย ทั้งคู่ทะเลาะกันหนัก เกิดเป็น Narcissistic Rage ปะทะ Borderline Rage สุดท้ายด้าาหงายการ์ด Uno Reverse 📱 คนรอบตัวของทั้งคู่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลายคนช๊อคในภาพลักษณ์ของมิวที่สร้างขึ้นหลอกผู้คนว่าเป็นอาจารย์แพทย์ผู้สุภาพแสนดีและรักแฟน และก็มีหลายคนช๊อคกับสิ่งที่ด้าทำ เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างบาดแผลใหญ่ให้กับทั้งคู่ ด้าต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตและรับการรักษาอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนมิวก็ต้องออกจากงานโรงพยาบาลเอกชนที่ทำอยู่และหวาดระแวงกับผู้คนรอบข้าง ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่กับบาดแผลนี้ไปปีกว่า

 ⚠️ ขอตัดเนื้อหาเหตุการณ์บางส่วนในตอนนี้ออก เพราะเนื้อหามีความรุนแรงและดาร์คมาก

—————

7 - ย้ายประเทศ

หลังจากนั้นเกือบปี ด้าเริ่มอาการดีขึ้น ก็คิดอยากย้ายประเทศ ไปอยู่ในประเทศที่ผู้คนให้ความสำคัญ มีการศึกษาและทำความเข้าใจกับเรื่องปัญหาสุขภาพจิตในเชิงลึก และกำลังทำให้การการุณยฆาตในผู้ป่วยจิตเวชถูกกฎหมาย นั่นคือประเทศแคนาดา โดยเลือกที่จะไปเรียนต่อโทอีกใบที่นั่น ส่วนมิวก็โชคดีที่ทางโรงพยาบาลที่มิวทำงานอยู่ได้ทุน fellowship ด้านเซลล์บำบัด ซึ่งอาจารย์เห็นใจและอยากส่งให้มิวไปชุบตัวและรอให้เรื่องที่เมืองไทยซาลงก่อนเลยยกทุนวิจัยนี้ให้ (น่าเห็นใจเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะได้ทุนมากกว่าแต่กลับไม่ได้ เพราะมีคนที่มีข่าวฉาวชิ่งรับทุนหนีคดีไปก่อน) ซึ่งทุนที่ว่านั้นอยู่ที่ Roswell Park Comprehensive Cancer Center เมือง Buffalo ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองที่ติดกับเขตชายแดนจังหวัดและประเทศที่ด้าย้ายไปอยู่ในปีแรกพอดี (ขนาดตัดสินใจย้ายไปต่างประเทศก็ไปในเวลาที่ไล่เลี่ยกันและไปในที่ๆอยู่ใกล้กันมาก)

—————

8 - เหยื่อรายใหม่

หลังจากที่ด้าย้ายมาแล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเพราะเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศมามากแล้ว ตรงข้ามกับมิวที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ต้องมาอาศัยไกลบ้านเป็นระยะเวลานาน มิวเหงาและมีภาวะซึมเศร้าที่ต้องอยู่คนเดียว ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ชิน สุดท้ายมิวก็ใช้ความเป็น Narcissism ของตัวเอง หาเหยื่อรายใหม่ในเมืองไทย (หาคนที่ดูมี empathy แล้วสวมบทบาทเป็นคนลักษณะที่เหยื่อชอบ) โดยการใช้ social media ตัวเองทักหาผู้คน ครั้งนี้มิวระวังตัวมากขึ้นหลังเหตุการณ์ที่เกิดกับด้า มิวพยายามเลี่ยงถ้ารู้ว่าคนๆนั้นมีอาการซึมเศร้า ในที่สุดมิวก็เจอเหยื่อรายใหม่ชื่อ นัต นัตเป็นคนที่มีคนติดตามใน Instagram หลักหมื่นคน เป็นนักเรียนทุนจบตรีนานาชาติศึกษา ที่มหาลัยใน Tokyo ประเทศญี่ปุ่น เคยทำงานใน Big 4 consulting firms ถึงสองบริษัท มิวหลอกล่อให้นัตหลงและตายใจ (Love Bombing Stage) พอนัตหลงแล้วมิวก็ชวนให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน คอยพูดคุยให้กำลังใจและช่วยดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ สุดท้ายนัตสอบได้ทุนปอโทด้านค้าขายระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยในเมืองที่มิวอาศัยอยู่ และตัดสินใจออกจากงานที่ทำอยู่ในเมืองไทยแล้วย้ายไปอยู่กับมิว

—————

9 - ความสัมพันธ์กับนัต

ฝันร้ายของนัตเริ่มขึ้นหลังจากที่ย้ายไปอยู่กับมิวจริงๆ มิวมีอ๋องอยู่แล้วและชัดเจนว่านั่นคือแฟนมิว นัตเลยไม่ได้อยู่ในสถานะอะไรในชีวิตมิวเลย ไม่แม้แต่จะเป็นเพื่อนเพราะมิวพยายามปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่านัตมาอยู่ด้วย ย้ำกับนัตตลอดว่าห้ามบอกใคร เวลาโพสต์ social media ก็ห้ามแท็กสถานที่ แต่สุดท้ายคนก็รู้กันทั่วไทยทั่วเมกาอยู่ดี งงมั้ย มิวพยายามปิดแทบตาย แต่อ๋องกลับไทยไปโพนทะนาไปทั่ว นี่คือความตลกร้ายอีกอย่าง ที่อ๋องรู้ว่ามิวกำลังหลอกใช้นัตและอยู่ด้วยกันแต่ก็โอเค (แต่ลับหลังเอานัตไปป่าวประกาศนินทานะ) ช่วงที่อยู่ด้วยกันมิวทำให้นัตเสียใจหลายครั้ง (Devaluation Stage) มิวหลอกใช้นัตสารพัดด้วยความที่นัตหลงมิวมาก นัตซื้อรถมาใช้มิวก็เอาไปใช้ นัตต้องคอยทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า ทำอาหาร ไปซื้อของเข้าบ้านให้ ขับรถพาไปเที่ยวที่ต่างๆ เที่ยว Grand Canyon ไปวิ่งมาราธอน ไปเล่นสกีกัน หลายๆครั้งที่พาไปกินอาหารหรือค้างโรงแรมนัตก็เป็นคนออกให้ (คุ้นๆเหมือนเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วมั้ยนะ) ท้ายที่สุดนัตก็เป็นแค่คนที่ถูกมิวหลอกใช้อีกคนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง (นี่คือลักษณะเฉพาะของ Narcissist คือขาดความเห็นอกเห็นใจคนอื่น และใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ตนเอง) แต่พอนัตเริ่มใจแข็งขึ้นมาหรือคิดได้ว่าจะไม่ยอมมิวอีกต่อไป มิวก็จะกลับมาทำตัวดี manipulate นัตให้ใจอ่อนยอมมิวต่อ (Hoovering Stage แบบที่มิวเคยทำกับด้า)

—————

10 - ล่าแต้ม สร้างฮาเรมในทวีปอเมริกาเหนือ

ถึงมิวจะอาศัยอยู่กับนัตแต่อาการเสพติดทางเพศของมิวก็ยังอยู่ มิวเริ่มคุยติดต่อกับคนไทยในเมืองต่างๆ ทั่วอเมริการวมไปถึงแคนาดาด้วย การที่นัตได้ไปอยู่กับมิวเหมือนเป็นการต่อแขนต่อขาและทำให้มิวกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ได้อาศัยอยู่ไกลจากอ๋องที่เป็นแฟนที่อยู่ไทย มีอิสระที่จะไปนอนกับใครก็ได้ มีรถให้ใช้ มีนัตมาช่วยหารค่าที่พักแถมดูแลทุกอย่างให้ที่บ้าน มิวถึงกับไม่อยากกลับไทยเลย นัตไม่ได้แค่โดนมิวหลอกใช้และทำร้ายความรู้สึก แต่ยังโดนบรรดาเหยื่อคู่นอนคนอื่นๆของมิวตามรังควานเมื่อถูกสืบรู้ว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกัน มิวยังใช้วิธีเดิมหลอกล่อให้เหยื่อตายใจเพื่อความสัมพันธ์ทางเพศ พอได้แล้วก็ตีตัวออกห่างแล้วหาเหยื่อรายใหม่ แต่ก็มีบางคนที่คบไว้นอนด้วยเป็น Friend with Benefits ซึ่งมิวคบซ้อนกันหลายคนมากในเวลาเดียวกัน ครั้งนึง มิวเคยพาเหยื่ออีกคนชื่อ มาร์ค รุ่นน้องทันตะที่จบจากมหาลัยสามย่านที่เดียวกับที่มิวจบเฉพาะทางมา มาต่อมหาลัยในรัฐเดียวกับที่มิวกับนัตอยู่ อยู่เมืองข้างๆกัน มาทุนเดียวกับนัต มิวพามาร์คมานอนด้วยที่บ้าน โดยที่มีนัตอยู่ด้วย เกิดอะไรขึ้นกันสามคนในคืนนั้นก็จินตนาการต่อได้เลย

—————

11 - ทิ้งแม่กับป้าไว้เพื่อไปนอนกับผู้ชาย

มีครั้งนึงที่แม่กับป้าของมิวบินมาจากไทยเพื่อมาเยี่ยม ตกลงกันว่าจะไปเที่ยว DC กันโดยให้นัตขับรถพาไป แต่วันนั้นมิวดันมีนัดไปนอนกับผู้ชาย เป้าหมายอีกคนของมิวที่ชื่อบิว บิวจบทันตะจากมหาลัยในไทยที่เดียวกับมิวกับด้า กำลังเรียนต่อเอกด้านทันตกรรมประดิษฐ์ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังชื่อเดียวกับเมืองใน Boston ชอบวิ่งมาราธอนเหมือนกัน แต่บิวมีแฟนแล้วนะ (เรื่องนอกใจกับการไปยุ่งคนมีเจ้าของเป็นเรื่องที่มิวชอบมาก รู้สึกว่าท้าทายและได้ accomplish บางอย่างถ้าทำสำเร็จ) มิวนัดไปวิ่งมาราธอนกับบิวเลยนัดไปนอนด้วยหวังจะได้ร่วมรักเต็มที่ แต่บิวไม่เอา มิวพยายามแค่ไหนบิวก็ไม่ยอม มิวทิ้งแม่กับป้าให้นัตเป็นคนดูแลพาเที่ยว DC แต่ตัวเองไปนอนกับผู้ชาย สุดท้ายผิดหวังกลับมาเหวี่ยงนัตเหวี่ยงแม่อีก ตอนอยู่ด้วยกันมิวพยายามรุกเร้าจนบิวรู้สึกอึดอัดมากถึงกับมาบ่นระบายให้เพื่อนฟัง บิวไม่ใช่แค่คนเดียวที่มิวทำให้รู้สึกอึดอัดเพราะไม่ได้อยากเอามิว ยังมีพี่เจียง เจ้าของร้านอาหารไทยใน New York ที่หลังจากได้เจอได้คุยกันก็พยายามเลี่ยงขอแยกตัวไปซื้อของ แต่มิวยังเดินตามตื้อ ส่งไลน์ไปตื้อชวนให้เปิดโรงแรมเพื่อให้ไป “เอากัน” (อยากเห็นแชตไลน์นั้นมั้ย?) ณ จุดๆนี้มิวทำได้แทบทุกอย่างเพื่อให้ได้นอนกับเป้าหมายที่ตัวเองเล็งไว้ แต่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ

—————

12 - มาริโอ้ คู่ขาใหม่ใน New York

ในที่สุดมิวก็เจอคู่นอนที่พอจะเข้ากันได้ที่ New York นั่นคือ มาริโอ้ เจ้าของฉายา ตม ไทยประจำ New York ที่ใครเข้าเมืองมาก็ต้องถูกมาริโอ้ “ปั๊ม” ซึ่งมิวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น มาริโอ้มีคู่ของตัวเองที่พักด้วยกันอยู่แล้ว แต่มิวก็ไปนอนด้วย เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นกันสามคน(อีกแล้ว) ก็จินตนาการต่อได้เลย ด้วยความที่เป็นคนไม่ผูกมัดและหาคู่นอนใหม่เก่งกันทั้งคู่ มิวเลยถูกใจมาริโอ้มากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ ถึงขั้นยอมให้ถ่ายรูปกับตัวเองทั้งๆที่ปกติจะไม่ยอมถ่ายกับเหยื่อคนอื่นเพราะกลัวความลับแตก วันเกิดก็ซื้อของขวัญให้ เอาใจมากกว่าเหยื่อคนอื่นๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องกลับไทยไปทำงานใช้ทุนก็คงเลิกกับอ๋องมาคบกับมาริโอ้แทน (หรืออาจคบไปพร้อมๆกันทั้งคู่ ในเมื่ออ๋องยอมมิวทุกอย่างอยู่แล้ว)

—————

13 - จบความสัมพันธ์กับนัต

ทุกครั้งที่นัตไม่อยู่ห้อง (กลับไทยหรือไปเมืองอื่น) มิวจะพาผู้ชายเข้ามานอนด้วย ซึ่งนัตก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาโดยตลอด แต่แล้วความอดทนของนัตก็ถึงขีดสุด มิวพิมพ์แชตกับผู้ชายนัดมานอนด้วยทั้งๆที่นัตก็ยังอยู่ข้างๆ ทั้งคู่ทะเลาะกัน นัตตัดสินใจไม่ต่อสัญญาห้องพักที่หารค่าห้องอยู่กับมิวมานาน แล้วไปขอความช่วยเหลือกับคนไทยคนอื่นในเมือง

สุดท้ายมิวก็แค่คบกับอ๋องเพื่อสร้างภาพคู่รักที่แสนหวานให้คนชื่นชม และสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองว่า ถ้ามีคนแอบคบหรือคู่นอนอื่นที่เข้ามาก็ถือว่าเป็นความผิดของคนเหล่านั้นเอง เพราะมิวแสดงออกแต่แรกว่ามีแฟนอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดดูดีๆ คนดีที่ไหนที่มีแฟนอยู่แล้วจะหาทางแอบคบหรือแอบไปมีอะไรกับคนอื่นอยู่ตลอด ตัวละครทุกคนในเรื่องก็เป็นฝ่ายถูกมิวเข้าไปจีบทั้งนั้น มิวคบกับอ๋องอยู่แล้วที่ไทย แต่ก็เอานัตมาอยู่ด้วยที่บ้าน แล้วยังไปคุยไปจีบกับคนไทยคนอื่นๆอีกมากมายทั่วอเมริกาเหนือ (ยังมีตัวละครอีกเยอะ)

—————

🔺 เตือนภัย ธิติ หมอจุฬาฯ ในนิวยอร์ค (ส่วนขยาย) 🔺

ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับตัวละครแบบมิวแล้วกำลังเสียใจหรือออกมาไม่ได้ ลองพยายามทำความเข้าใจกับ NPD และ Narcissistic Relationship ดู แล้วจะเข้าใ...